พระราชวังหลวงพระบาง หลังนี้เป็นอาคารเก่า
ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ลักษณะอาคารเป็นอาคารชั้นเดี่ยวยกพื้นสูง
สถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส แต่เป็นการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและลาว
ด้านนอกอาคารเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
เป็นระยะเวลานนาน จนสิ้นพระชนม์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี
พ.ศ.2518 พระราชวังหลวงพระบาง ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์
พระราชวัง
หลวงพระบางแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1904 มีแผนผังเป็นรูปกากบาท และ
สร้างฐานซ้อนกันหลายชั้น หอพระด้านหน้าเป็นที่ประดิษฐาน พระบาง
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของลาว องค์พระสูง 83 เซนติเมตร
พระหัตถ์แสดงปางอภัยมุทรา หล่อขึ้นด้วยทองคำ บริสุทธิ์เกือบทั้งองค์
รวมน้ำหนักทั้งสิ้นราว 43 ถึง 54 กิโลกรัม ตามตำนานเล่าว่า
พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้น ที่เกาะสิงหล เมื่อราวศตวรรษ ที่ 1
จ้า
ฟ้างุ้ม ทรงได้รับพระราชทานจากกษัตริย์เขมรมาอีกต่อหนึ่ง
แต่ก็ต้องตกไปอยู่ในเมืองสยามถึงสองครั้ง ในปี ค.ศ.1779 และ ค.ศ. 1827 จน
ปี ค.ศ. 1867 พระบาทสมเด็จพระจอเกล้าฯ จึงทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานกลับคืน
ไปให้ภายในห้องยังมีฉากลับแลผ้าไหมปักลวดลาย ด้วยฝีมือ ประณีต
และงาช้างแกะสลักอีกไม่น้อย ที่เหลือเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ภาพบุดคล
บรรณาการจากต่างชาติ และ
งานศิลปะมากมายและงานประดับกระเบื้องอยู่รอบๆตัวอาคาร
ภายในพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงประวัติศาสตร์ อันเก่าแก่ของเมืองหลวงพระบาง ห้องเด่นๆหลายห้องอยู่ฝั่งขวาของอาคาร เช่น
1. ห้องฟังธรรม ภายในมีธรรมมาสน์ ห้องปูพรมและเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิติศรีสว่างวงศ์ในเวลาฟังธรรม
2. ห้องรับแขกของพระมเหสี ภายในห้องจัดแสดงของขวัญจากประเทศต่างๆ
3. ห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิต
ภายในห้องสวยงามด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง เกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวลาว
ภาพวิวทิวทัศน์ ภาพงานประเพณี
และยังมีรูปหล่อครึ่งองค์ของเจ้ามหาชีวิตอุ่นคำ เจ้ามหาชีวิตสักรินทร์
เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา
ซึ่งทั้งหมดนี้หล่อมาจากประเทศฝรั่งเศษ
4. ห้องท้องพระโรง ห้อง
นี้ใช้ทำพีธีราชาภิเษก
ซึ่งเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนาเตรียมห้องนี้ไว้ทำพิธีราชาภิเษก
แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงปกครองเสียก่อน
ภายในห้องติดประดับด้วยกระจกโมเสดสีแดงจากประเทศฝรั่งเศส
นอกจากห้องสำคัญเหล่านี้แล้วด้านหลังของท้องพระโรง ยังเป็นที่ตั้งของตำหนักของเจ้ามหาชีวิต อีกจุดที่เด่นของพระราชวังคือ
5. หอพระบาง
ภายในหอพระนี้เองเป็นที่ประดิษฐาน พระบาง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง
พุทธลักษณะของพระบาง เป็นพระพุทธรูปปางประทับยืนปางประทานอภัย
ทั้งสองพระหัตถ์ หรือปางห้ามสมุทร เป็นศิลปะสมัยขอมหลังบายน
มีน้ำหนักประมาณ 54 กิโลกรัม ประกอบด้วยทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์
และในหอพระนี้ยังมีพระพุทธนาคปรก
สลักศิลาอีกสี่องค์และยังมีกลองโบราณอยู่ด้วย
ค่าเข้าชม 30,000 กีบ (ประมาณ 120 บาท)
เปิดเวลา 08.00 - 11.30 น. และ 13.30 - 16.30 น.
หมายเหตุ ภายในพระราชวังหลวง ห้ามการถ่ายรูปทุกชนิด